เที่ยวอยุธยา เพราะเกี๊ยวกุ้งปู๊ตี่


ไปเที่ยววันที่: เสาร์ที่ 21 กันยายน 2556

สถานที่ท่องเที่ยว:
+ ตลาดหัวรอ 200 ปี จ.อยุธยา
+ วัดมหาธาตุ จ.อยุธยา
+ ตลาดโก้งโค้ง จ.อยุธยา
+ พระราชวังบางปะอิน
+ ย่านอาหารหน้า ม.มหิดล ศาลายา จ.นครปฐม

ร้านอาหาร:
+ ในตลาด
+ ร้านปู๊ตี่



เหตุแห่งทริปเกิดจากเกี๊ยวนครปฐม
เป็นสิ่งที่รุ่นพี่ผมพี่ต้น ซึ่งเป็นครูมวยไทยยุทธ (อยู่หลักสี่)
แนะนำให้ไปลองกินกัน ร้านปู๊ตี่ ตรงข้าม ม.ศาลายา

OK จัดทริปให้ ว่างกันวันไหนไปเสวนากันหน่อย

พี่ต้น : พี่ว่างวันพุธ
Mr.F : ว่างวันเสาร์
Mr.T : ได้เลย
Mr.อื่นๆ : ยุ่งมาก

มีโจทย์บังคับอยู่ 2 ข้อ
1. มารับพี่ต้นที่หลักสี่ ตอน 5 โมงเย็น
2. ขอทริปแบบไม่หักโหม



โปรแกรมที่ตั้งไว้
1. 8.30-9.00 AM เจอกันบางแคบ้าน Mr.T แล้วมุ่งหน้าสู่ อยุธยา
2. กินมื้อสายที่ตลาดหัวรอ 200 ปี
3. ชมUNSEEN THAILAND ที่วัดมหาธาตุ
4. เดินเล่นตลาดโก้งโค้ง
5. เข้าวัง พระราชวังบางปะอิน
6. หากมีเวลาเหลือ แวะเข้าวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ
7. ออกจากอยุธยา 4-4โมงครึ่ง
8. รับพี่ต้นหลังเลิกงานสอนมวย ที่หลักสี่
9. ไป ศาลายา นครปฐม


*
วันจริง
Mr.F มาล่ากว่ากำหนด ปาไป10โมง  ล้างรถ =_="
ซีคอนบางแคตอน8โมงกว่า

อยุธยา เราก็เคยมากันบ่อยๆ
ตัวผมเองมาอยุธยาทีไรก็จะไม่พ้น 2 วัดนี้คือ
วัดพนัญเชิง กับ วัดใหญ่ชัยมงคล

เที่ยวนี้ผมเป็นคนจัดทริปเอง
เรื่องเข้าวัดไหว้พระ ตัดออกหมดเลย
พระพุทธรูป คือสื่อให้นึกถึงพระพุทธเจ้า
เราไหว้พระพุทธรูปเพราะนึกถึงความดีของพระองค์
ความดีของพระองค์คือ พระธรรมคำสอน หาใช่ไหว้เพื่อขอโชคขอลาภอื่นใดไม่

พระธรรมคำสอนเมื่อได้ศึกษา
จะทำให้เราเกิดความเคารพนอบน้อมเอง
มิต้องมีผู้ใดมาบังคับชวนศรัทธา

แต่ถ้าไปด้วยเหตุทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง



อยุธยาเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัด
เมื่อจะเที่ยว จึงขอเลือกวัดมหาธาตุ
เพราะ ภาพเศียรพระพุทธรูปที่ได้รับการโอบอุ้มจากต้นโพธิ์
เป็นภาพที่มีชื่อเสียง เผยแพร่ไปทั่วโลก เป็น UNSEEN THAILAND

เราคนไทยเอง ยังไม่เคยมาเห็นกับตา จะไปบอกเล่าเพื่อนต่างชาติ
ได้อย่างเต็มปากเต็มคำได้อย่างไร
ภาพอันลือชื่อ UNSEEN THAILAND


*

ตลาดหัวรอ 200 ปี

วิวแรกที่เข้ามาอยุธยา จอดรถถ่ายรูปไว้ก่อน

ก่อนจะถึงวัดมหาธาตุ
ขอฝากท้องที่ตลาดหัวรอ 200 ปี
เป็นตลาดเก่าแก้แท้ๆ ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น
ไม่ได้เนรมิตเพื่อรับการท่องเที่ยวในภายหลัง อย่างตลาดน้ำอโยธยา(ไปแล้ว) เป็นต้น

เราจอดรถกันที่นี่ เลยตลาดมานิดหน่อย



ตรงข้ามลานจอดรถเป็นวัดแห่งหนึ่ง


หน้าตลาดมีโรงงิ้ว นี่ก็กำลังสับเป็ดไหว้เจ้าพอดี


โรงงิ้วหน้าตลาด กินพื้นที่ถนนลงมา



จ๊ะเอ๋ ตลาดหัวรอ



สถานที่จริงดูไม่ขลังอย่างที่ฟังๆกันมาแหะ
ก็เหมือนตลาดทั่วไป สะอาดใช้ได้นะ


เข้าสู่โซนอาหารท้ายตลาด



อาหารก็ปกติธรรมดาทั่วไปนะ
จะมีก็เต้าหู้ทอดนี้แลอร่อยสุดบนโต๊ะ
ใหญ่เย็นโฟ

ผัดไทกุ้งสด

หมูสะเต๊ะกับเต้าหู้ทอด

เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่ามาแล้ว
ห้ามพลาดไอศครีมกะทิสดด้วยประการทั้งปวง
ไอศครีมร้านป้า

ถ้วยละ 25 บาท ป้าบอกมะพร้ามแพง
มะพร้าวขึ้นไอศครีมก็ต้องขึ้นจ๊ะ
จากการชิมของพวกเรา 3 คน
จะทานแล้วนะคร๊าบบบ

สุวรรณ : มันเป็นไอศครีมกะทิที่ดีกว่าทั่วไป
Mr.F : ก็ไม่รู้สินะ รสนมมันกลบหมด แยกความเป็นไอศครีมไม่ออก
Mr.T : ก็ไม่ได้แย่

แม้ว่ามื้อแรกเกือบเที่ยงของวันนี้
จะไม่สามารถทำให้ 3 หนุ่ม 3 มุม อู้หู อ้าหาได้
แต่บรรยากาศสุดยอดมากๆ
อยู่ท่าน้ำหลังศาลเจ้าจีน
ด้านหลังมีท่าน้ำ

วิวแม่น้ำอิ่มๆไหลเชี่ยว ลมโกรกๆเย็นๆ ฟ้าครึ้มๆร่มๆ
เอาเท้าราน้ำ แช่น้ำ พูดคุยกันไปเรื่อยๆ จิบไอติมหวานๆ
ชิลด์ดี ชิลด์ดี



เป็นทาง 3 แพร่งของน้ำ จึงเกิดน้ำวนขนาดใหญ่
ทำเลแบบเดียวกับบ้าน พี่มากพระโขนงเลย


เติมเชื้อเพลิงเข้าท้องแล้วก็ไปเข้าวัด...



*

วัดมหาธาตุ




วัดนี้น่าจะเป็นLand Markของกรุ๊ปทัวร์เลย
รถตู้แน่นลาน รถทัวร์ก็หลายคัน
นักท่องเที่ยวก็เยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นคนจีน รองมาก็ญี่ปุ่น ฝรั่งและอินเดีย



รถตู้เพียบ รถทัวร์อีกต่างหาก

รถตุ๊กๆ อยุธยา

อาณาเขตของวัดดูกว้างใหญ่
เผื่อใจไว้แต่แรกแล้วว่าอาจจะเดินไกล
เพื่อไปชม เศียรพระต้นโพธิ์
ร้องเพลงชาติไทยได้คิดค่าตั๋ว 10 บาท


แต่กาลกลับใกล้กะทันหันผิดคาด
คือเดินๆมาไม่เท่าไร เจอเลย
คนญี่ปุ่นกำลังอาโนเนะ


มีคิวรอถ่ายรูปเพียบ


ต้องรอคนโล่งๆ ถึงจะได้ภาพด้านหน้า



เดินอ้อมมาดูด้านหลัง



คนเยอะไหมล่ะ วันเสาร์ตอนบ่ายโมง



ผู้คนต่างก็ถ่ายนู่น นี่ นั่น กันอย่างเพลิดเพลิน



เอ่อ..


แล้วคนนี้เขาถ่ายอะไรหว่า?



วันที่เราไปเป็นช่วงที่เหมาะแก่การ
เดินเที่ยวโบราณสถานมากๆ
เพราะไม่มีแดด อากาศครึ้มคล้ายฝนจะตก แต่ก็ไม่ตก
พื้นหญ้าสีเขียวยังคงฉ่ำน้ำอยู่ แม้จะเป็นเวลาบ่ายแล้วก็ตาม
เราเปลือยเท้าเดินเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศโบราณ

แม๋ มันเป็นฟิลลิ่งซะจริงเชียว ^^



หญ้าเขียวๆฉ่ำน้ำ ต้นไม้ใหญ่แผ่ร่มเงา อิฐแดงๆแผ่ความเย็น



สามารถพบเห็นเจดีย์อิฐที่ระลึก
จากนักท่องเที่ยวมากมาย



แบบนี้ก็มี



นี่แบบย่อมๆ



แบบ 4 สี หัว ตัว ผ้าถุง และ ฐาน ^0^



อันนี้ของข้าพเจ้า1เม็ด บรรจงวางไว้บนยอด
เขาเรียกว่า ต่อยอด  แบบนี้นี่เอง ^^"



นี่น่าจะเป็นพระปรางค์เจดีย์องค์ที่
เคยบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเมื่อกาลก่อนราว 6 ศตวรรษ

ใหญ่โต น่าเกรงขามมากครับ



ใกล้ๆกันเป็นโบสถ์ ดูจากใบเสมา
แถมเป็นเสมาคู่ด้วย แสดงถึงฐานะว่าเป็นวัดหลวง



นึกว่าโบราณสถานจะห้ามสุนัขเข้าซะอีก
เมื่อตาต่อตามาประสาน---ชะเองเอย

เดินออกมาเพิ่งจะเห็น ซุ้มนี้


เป็นไกด์แนะนำสถานที่แบบส่วนตัว (หูฟัง)
มิน่า เห็นป้ายหูฟังตามจุดต่างๆ
นึกว่าจะยิงสัญญาณส่งเสียงบรรยายเข้ามือถือซะอีก(BlueTooth)

มีแค่ภาษาไทยกับอังกฤษ
ดูจากนักท่องเที่ยวแล้ว ควรที่จะเพิ่มภาษาจีนกับญี่ปุ่นนะ $_$

ย้อนยุคที่ตลาดโก้งโค้งต่อ ป่ะ ^^




*

ตลาดโก้งโค้ง

กำลังไปตลาดโก้งโค้ง

ออกจากวัดมหาธาตุไกลพอสมควร ใช้เส้น 3477
จอดรถแล้วเดินข้ามถนนไปละกัน เพราะเดี๋ยวก็ต้องมุ่งหน้าทางเดิม



ตลาดนี้ดูดีน่าจับจ่าย
โดยเฉพาะถ้าจะหาของที่ระลึกกลิ่นไทยๆล่ะได้เลย



ร้านค้าที่นี่ไม่เสียค่าเช่าที่ ของจึงราคาถูก
แต่มีเงื่อนไขว่าพ่อค้าแม่ขายต้องแต่งชุดไทยย้อนยุคแทนค่าเช่า









บ๊ะเจ้าโจ็ก!! แฟนฉัน



อ้อ นี่มันขนมเก่าแก่ย้อนไปในยุคหนังเรื่อง แฟนฉัน
ลูกอมนี้ช่วยให้เป่านกหวีดได้^^

อยากได้อะไรก็หยิบใส่ตะกร้า นำไปคิดตังค์ที่เค้าเตอร์นะ
อ้อ ใช้เงินบาทจ่ายนะจ๊ะ ไม่ใช่เบี้ย ใช่เฟื้อง อิอิ



อันนี้ เห็นเพื่อนว่าคือ อุปกรณ์เล่นกีฬาในที่ลับ(ตาทหารเมือง) @_@



มีอะไรต่อมิอะไรให้ดูเยอะเลย












น่ากินชิมิ

แม้จะไม่ได้หิว แต่ด้วยสภาพแวดล้อมตอนนั้น
ทำให้อยากอุดหนุนอะไรเพิ่มอีกสักหน่อย
ข้าวคลุกกะปิจานครับ






หมูสะเต๊ะ มื้อนี้สอบผ่าน
หน้าตาดี เนื้อนุ่ม น้ำจิ้มอร่อย อาจาดจี๊ด



โปรแกรมถัดไป พาเพื่อนๆเข้าวัง...




*

พระราชวังบางปะอิน

@_@

เพื่อนMr.FและT ไม่เคยเข้าวัง
เราก็กำชับเรื่องการแต่งตัวให้ถูกระเบียบ
ตรวจเครื่องแต่งกายก่อนออกเดินทางให้

แต่เพราะ 1ชั่วโมงครึ่งที่หายไปเมื่อตอนเช้า
ทำให้โปรแกรมนี้ ล่มซะงั้น

ประตูวังแขวนป้ายปิด 4โมง!! (เดิม16.30น.)

ตอนนั้น 3 โมง 45 นาที!!
จบกัน ไม่ต้องแม้แต่จะเลี้ยวเข้าไปในวังเลย
งานนี้แต่งตัว กับเตรียมเสื้อผ้า(บนรถ)กันมาเก้อเลย
ถนนจากวัง กำลังซ่อม พังยาว



*

รับพี่ต้น ที่หลักสี่

ภาพนี้รับมาแล้ว กำลังจะไป นครปฐม

ทางค่ายมวยแคนเซิลการสอนช่วงเย็น
จึงเปลี่ยนจุดรับ นัดมาที่ศูนย์ IT แจ้งวัฒนะแทน




*

นครปฐม

สังสรรค์ปราศจากแอลกอฮอล์
ย่านอาหารหน้าม.มหิดล ประมาณ ทุ่มครึ่ง

ที่จอดรถหน้า ม.มหิดล ศาลายา ช่วง 1-2 ทุ่ม หายากมากกกก
เพราะเป็นทำเลเปิปพิสดาร เชลชวนชิม ไปแล้ว
เราต้องวนเข้าซอย 2 รอบกว่าจะได้ที่จอด(ไกลด้วย)



ร้านปู๊ตี่ บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง
กับร้านแก้วซัง ราเมง เจ้าของเดียวกัน
สั่งเมนูไหนร้านไหนก็ได้
จะนั่งในห้องแอร์ร้านแก้วซัง
หรือ รับลมริมธารรถยนต์ด้านนอก ร้านปู๊ตี่ก็ตามสะดวก
ร้านปู๊ตี่


ร้านแก้วซัง



เกี๊ยวของเขาAmazingมาก
คล้ายหมูเด้งรสขนมจีบกลิ่นหอมงา ลูกเกี๊ยวโตใหญ่ โชว์ลายหยักขดไปขดมา
แบบน้ำ


แบบแห้งแยกน้ำต่างหาก

สั่งเกี๊ยวมาเพียวๆ

เกี๊ยวซ่า นี่อร่อยมากครับ
ลูกใหญ่อย่างกับซาลาเปา
เกี๊ยวซ่า

ราเมงไข่สาหร่าย ผมก็ซดหมดจนหยดสุดท้าย


และหน้าตาอาหารบนโต๊ะเราอีกบางส่วน






*-*
แต่เมนูที่ผมคิดถึงมากๆ
จากกันมานาน แสนนาน แสนนาน
มานครปฐมหลายครั้งก็จริง แต่มีโอกาสกับสิ่งนั้นเพียงครั้งเดียว
กลายเป็นเมนูแห่งความระลึกถึง ไปซะละ

ปังเย็น!! ถ้วยละ30บาทนี้นี่เอง!!
ปังเย็น

เบื้องหลังปังเย็น



ไป 2 ทุ่ม กลับถึงบ้าน เที่ยงคืนอ่ะ
นั่งคุยกันยาวนาน ไม่ต้องกลัวเจ้าของร้านไล่ที
เพราะพวกเราคุยอยู่กับเจ้าของร้านนั่นเอง 5 5 5





 
SuwanPost
สุวรรณโพสต์




ความคิดเห็น

  1. 55555
    mini group to eat.
    หอบเอาเกี๊ยวกลับบ้านอีก2ถุง หุหุ
    ฐานที่ไม่ได้มานาน^_~

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น