เพาะปลูก พอเพียง ตอนที่7 อุดมการณ์ VS. ความต้องการของตลาด

กำลังsearch.. หาพันธุ์ถั่วงอกที่ไหนมาเพาะดี

ต้นถั่วในตำนาน ^^

ไปเจอ2สามีภรรยา อยู่คอนโด
เพาะถั่วงอกขายส่งตามร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน  เป็นรายได้เสริม

เขาเป็นคนที่ชอบกินถั่วงอกมาก ปลูกเอง กินเอง ขายด้วย ก็น่าจะเป็นความสุขที่ลงตัว...



แฉถั่วงอกคนเมือง วงจรอุบาท อย่างกับละครน้ำเน่า


"เมื่อก่อนผมทำถั่วงอกบนคอนโด
ขายกับแฟนเป็นรายได้เสริม ส่งร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน
วันละประมาณเกือบ 50 กิโลครับ

ใช้เครื่องเพาะถั่วงอกที่เป็นชั้นๆแบบจ่ายน้ำไห้ถั่วงอกแบบ
แท่งกาลักน้ำครับที่อาจารย์ ม. เกษตรท่านหนึ่งประดิษย์ขึ้น 

ทำส่งร้านค้าผักปลีกบ้างร้านก๋วยเตี๋ยวบ้างเจ้าละ 2 -3-4-5 โลมั่ง
ทำบนพื้นที่ หลังคอนโดคือในห้องน้ำและระเบียงหลังห้องเท่านั้นครับ


ตื่นเช้ามากับแฟนตี 4 เมาขี้หูขี้ตา มาเอาหมวกถั่วงอกออก
ส่งร้านก๋วยเตี๋ยวและร้านค้าขายผักละแวกนั้น แต่ถ้าทำส่งเยอะๆแบบพ่อค้ารายไหญ่
ใช้ถังเคมีสีฟ้าตัดครึ่งเพาะขั้นตอนนี้ไม่ต้องทำครับขายยกถังเลยแม่ค้าที่ตลาด
เขาจะไปเอาออกเองแต่ราคาจะได้ถูกลงอาศัยส่งทีละเยอะๆ
แต่ผมไม่ได้ทำแบบนั้น ทำแบบพอเพียงเป็นรายได้เสริม


บางครั้งถั่วงอกเน่าหรือเสียมาเหม็นมากครับ
เนื่องจากไส่น้ำยาเคมีไปเกือบ 6 ชนิดก่อนที่จะขาวๆอวบๆอย่างที่ท่านเห็นกันตามตลาดนะครับ
ไม่ไส่ก็ไม่ได้ตลาดไม่รองรับ  แม่ค้าจะบอกว่าไห้ดูเจ้าอื่นสิ ขาวอวบสวยขนาดนี้

เขาไม่ได้สนใจหรอกทั้งลูกค้าที่กินกับคนขายว่าจะมีสารเคมีหรือไม่ขอไห้ขาวอวบไว้ก่อน
ใส่น้ำยาไปสารพัด น้ำยาทำไห้กรอบเอย  น้ำยาบังคับรากสั้นเอย ขาวเอย อวบเอย
ผงเคมีไส่ตอนแช่ถั่วเอย สารพัด นี่ยังไม่รวม ฟอกขาวที่เขาไปไส่กันเองที่ตลาดนะครับ 

หลังๆมานี่ไม่กล้ากินเลยครับทั้งที่เป้นคนที่ชอบกินถั่วงอกมากหยิบไส่ถ้วยทีเป้นกำ
แต่ตอนนี้กินครั้งละเส้นสองเส้นพอไห้หายอยาก



การทำส่งร้านพวกนี้ก็ต้องต่อเนื่อง
เพราะเขาฝากความหวังไว้กับเราเจ้าเดียว
ถ้าสินค้าในวันนั้นมีปัญหาพลาดมาก็ต้องไปหาซื้อที่ตลาดมาไห้เขาแทนครับ เพราะไม่ได้ทำสำรองครับ 
ผมล้างเอาหมวกถั่วออกแล้วก็ต้องแพคถุงตามขนาดที่ลูกค้าสั่ง ขับรถมอไซด์ไปส่งทีละเจ้า
ส่งเสร็จก็พาแฟนอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานกัน 


ถั่วที่ไช้ทำถั่วงอกที่เขานิยมรับประทานที่เรากินขาย90 เปอร์เซ็นตามตลาด เป็นถั่วเขียว ผิวดำหรือถั่วแขก นั่นเองครับ หมวกจะมีสีดำ
ข้อดีคือถั่วชนิดนี้เนื้อจะแข็งขาวกรอบ กลิ่นเหม็นเขียวจะน้อยกว่า
ข้อเสียเท่าที่รู้มีสองอย่างครับคือต้นจะผอมกว่า

นั่นจึงเป็นเหตุผลในการไส่น้ำยาเคมีที่ว่ามาแหละครับ
ข้อเสียอีกอย่างคือ หายากครับเห็นว่าจะมีตลาดไหญ่อยู่สองที่มั้งครับสำหรับถั่วแขกใน กทม.
คือที่ท่าเตียนและถนนทรงวาสเยาวราชที่อื่นผมไม่รู้

ผมไปซื้อถั่วจากถนนทรงวาส ย่านเยาวราชครับ เขาขายเป็นกระสอบ 60 กิโลเอามาได้ทีละกระสอบ
เพราะตอนนั้นยังไม่มีรถยนต์ ขับมอเตอร์ไซด์จากสะพานไหม่ไปครับนำกระสอบ 60 กิโลใส่ท้ายรถมอไซด์มาครับคิดดู
มาถึงแล้วต้องลากกระสอบขึ้นคอนโดชั้นสองครับ(ชื่อเป็นคอนโดแต่สภาพเหมือน แฟลตเก่า)
คอนโดบ้านสวนบางเขนครับ ในซอยสายหยุด พหลโยธิน 48



อ้อ ลืมเลยโม้เพลิน
สำหรับถั่วอีกชนิดหนึ่งที่เขาเอามาเพาะทำถั่วงอกคือ ถั่วเขียวผิวมัน หัวหมวกสีเขียว
ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไปที่เขาเอามาต้มน้ำตาลขายไห้เรากินนั่นแหละครับ
แต่ในตลาดถั่วงอก ถั่วชนิดนี้ไม่นิยมเอามาทำเป็นถั่วงอกหลักครับ
ข้อดีข้อเดียวที่ผมรู้คือ ต้นจะอวบโดยที่ไม่ต้องไส่น้ำยาเร่งเลยครับ

อ้อ อีกอย่างหาซื้อง่ายครับ ถ้าเราทำกินเองก็ใช้ชนิดนี้แหละครับง่ายดี ปลอดภัยเพราะเราไม่เน้นตลาด อิอิ
ส่วนข้อเสียที่ไม่นิยมมาทำถั่วงอกขายสู่ท้องตลาดคือ ต้นยาวรากยาว ต้นบอบบาง ช้ำง่าย
ไม่กรอบเนื้อและกรอบไม่นาน เหม็นเขียวกว่าถั่วแขกครับ


ทำไปได้เป็นปีอยู่ครับ
หลังๆมาก่อนเลิกทำ รู้สึกอาการ ทั้ง ผมและแฟนจะไม่ค่อยดี
เพราะ ตื่นเช้า และ ยุ่งอยู่กับสารเคมี ทำไห้รู้สึกได้เลยเหมือนคนที่โดนสารเคมีซึมเข้าไปมันมึนๆตามร่างกายเยอะครับ
ทีแรกก็ทำมาก็ดีๆอยู่พักหลังมาปัญหาจุกจิกมากครับบางวันเน่าเสียเฉยเลยขึ้นอยู่กับสภาพอากศด้วยหรือเปล่าไม่รู้ เลยเลิก
ประกอบกับ ทำงานประจำด้วยเลยไม่ค่อยมีเวลา พักผ่อนมากครับ กำไรก็ไม่ได้มากแต่สุขภาพนี่สิ


ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ได้หวังจะบั่นทอนกำลังใจท่านแต่อย่างใด
แต่จะหยิบยกเอาส่วนดีเสีย เข้ามาไห้ท่านได้ศึกษา ในตัวถั่วงอกไห้ดีก่อนที่จะทำออกตลาด
โดยเฉพาะการยอมรับของตลาดครับ และความพร้อมของท่านการทำส่งไห้สม่ำเสมอและแข่งกับตลาด
จะเจาะตลาดไหน ศึกษาหน่อยก็ดีครับเรื่องการเพาะถั่วงอกหรือลองผิดลองถูกก็ได้ครับ ประสบการณ์จะสอนเอง

ของที่พี่ทำอาจจะประสบความสำเร็จก็ได้หากเอาจริงเอาจัง และมีพื้นที่พอ
และการจัดการที่ดี มีความพร้อม เพราะคนทำถั่วงอกขายก็รวยมาหลายคนแล้ว
ที่ผมทำนี้ก็แค่เป็นการหารายได้เสริมเพียงช่วงหนึ่งของชีวิต

มาแชร์ประสบการณ์ไห้ทราบเผื่อมีอะไรที่พอไปไช้ประโยชน์แก่เพื่อนสมาชิกผมก็ยินดีเป็นอย่างมาก
อย่าลืมนะครับทำส่งให้เขาทุกวันสินค้าจะต้องดีที่สุดทุกวัน
สู้ๆๆๆครับ "



ที่มา : http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=11042.0


คนปลูกไม่กล้ากิน คนกินไม่ได้ปลูก ลงท้ายป่วยทั้งคู่

อุดมการณ์หรือความตั้งใจตอนต้นก็ดีนะ อยากกินอะไร ชอบอะไร ก็ปลูกอย่างนั้น
แต่พอคิดที่จะขาย มันก็มีเรื่องสเป็กหรือความต้องการของตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง


นึกถึงละครไทย
ที่หลายคนหาว่าเป็น ละครน้ำเน่า
แต่ผู้ผลิตก็บอกว่า ทำน้ำดีแล้วขายไม่ออกอ่ะ ตลาดคนส่วนใหญ่ชอบแบบนี้
ก็ต้องทำแบบนี้สิ ถึงจะขายได้

กรี๊ดกันสนั่นจอ ^^"

คนส่วนน้อยอย่างท่านก็ไปหาดูละคร ซีรี่ย์น้ำดีจากที่อื่นละกัน



..กลับมาเรื่องถั่วงอก

ถ้าเราเพาะกินเอง อาจจะเลือกกิน ถั่วงอกแตกใบอ่อนไม่ตัดรากก็ได้
เพราะเห็นว่ามีประโยชน์มากกว่า

แต่เมื่อจะทำขาย ถ้าไม่ใช่กลุ่มลูกค้าแนว Healthy HardCore
ตลาดส่วนใหญ่จะชอบความสวยงาม แบบล็อคสเป็กไว้แล้ว  ไม่งั้นก็ขายไม่ได้

ถั่วงอก ต้องอวบอ้วนขาวจั๊ว เจี๊ยะกรอบ รากไม่มี หัวไม่ถลอก หรือตัดหัวตัดรากไปเลย

จึงมีสารเคมีหลายตัวเข้ามาร่วมจอยด้วยในขั้นตอนการผลิต
จากปากคำพ่อค้าข้างต้นใส่ไปตั้งเกือบ 6 อย่าง อะไรบ้างไม่บอกให้หมด

แต่หลักๆก็จะมี

อยากผิวขาว ก็ใส่สารฟอกขาว
http://youtu.be/0gythalElyU  (ดึงYouTubeมาโชว์ไม่ได้ ตามLinkไปเองนะครับ)

อาการเป็นพิษ : เวียนหัว อ๊วกเอียน ท้องเสีย ช็อคและตายได้เลย



อยากให้ถั่วงอกสด + กรอบ
สารฟอร์มาลีน
http://youtu.be/2-UHaWCheiQ  (ดึงYouTubeมาโชว์ไม่ได้ ตามLinkไปเองนะครับ)

อาการเป็นพิษ : ปวดหัว ท้องร่วง เกิดแผลในกระเพาะ ระบบหมุนเวียนโลหิตล้มเหลว และตายได้


ทำกินเองก่อนดีกว่า ถ้าคิดที่จะทำขาย เรื่องตลาดนั้นสำคัญ
ถ้าตลาดไม่เฮ้ลตี้พอ เราอาจจะตกไปสู่ด้านมืดแห่งพลัง เข้าสู่วงจรอุบาทได้อีก


ขอพลัง(เจไดขาว)จงสถิตอยู่กับท่าน

สุวรรณโพสต์
SuwanPost


ความคิดเห็น