เที่ยวสมุทรปราการ เสาร์ที่4เมษายน2558 ลมดียิ่งกว่าชายทะเลอีก

หรรษาทริป สมุทรปราการ
เสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ.2558

เกิดขึ้นจากความจำเป็นที่ต้องไปติดต่อราชการวันเสาร์
จากนั้นจะไปไหนดี? ฟรีสไตล์ เปลี่ยนไปมา จนออกมาแบบที่เราจะได้เห็นกันครับ

ใช้เวลาประมาณ 55 นาที จากบ้านดาวคะนองมา อำเภอในวัดเวฬุราชิน วิ่งตามเส้นรถเมล์สาย111 รถค่อนข้างติด

วัดเวฬุราชิน

หายสงสัยแล้วว่าอำเภอเปิดวันไหน เวลาไหนบ้าง
เดินกลับมาที่จอดรถ วันเสาร์คนน้อยไม่ต้องรอคิวเลยเสร็จธุระไวอย่างเหลือเชื่อ

แวะ วัดอินทาราม ตลาดพลู

ติดกับลานจอดรถเป็นพระวิหารสมเด็จพระเจ้าตากสิน
ด้านหน้าพระวิหารมีรูปปั้นพระเจ้าตากสินบนหลังม้า ชูดาบเด่นเป็นสง่า

เบื้องหน้ารูปปั้นพระเจ้าตากเป็นลานกว้าง และลำคลอง
ภายในวิหารฝั่งซ้ายมือเรา

ภายในวิหารตรงกลางเป็นหมู่พระพุทธรูป
ภายในวิหารฝั่งขวามือ

ถัดจากวิหารมีโบสถ์หลังใหญ่กว่า ลองเข้าไปดู

สายสิน ระโยงระยาง
อีกด้านเป็นพระที่นั่งและพระฉายพร้อมพระมาลา ทั้งหมดจำลองขึ้นเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระเจ้าตากสิน

เข้ามาดูใกล้ ๆ
โต๊ะรับแขกในโบสถ์
ไหว้พระไหว้เจ้าแล้วออกมาเดินดูตลาดสักหน่อย

แดดตอนสาย ๆ ตลาดยังคงมีคนอยู่ รอมื้อเที่ยง
ขายของกันแบบชุมชนเก่าแก่
สะพาน สมบุญ ตั้งแต่สมัย พ.ศ.2475 !!
ช่วงนี้ระดับน้ำน้อย

เรามาสุดที่ตลาดสด คนแถวนั้นบอกว่า
เดินตรงไปได้เรื่อย ๆ ก็จะไปถึงวัดโน้นวัดนี้ ยาวเป็นกิโล
จึงคิดว่าแค่นี้ก็พอ กลับไปขึ้นรถดีกว่า

ตลาดสดสุดทาง

วัดไทร
อดีตแหล่งท่องเที่ยวที่เคยรุ่งเรืองอย่างมาก

วัดไทร เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา
เคยสร้างตำหนักไว้เป็นที่ประทับของ พระเจ้าเสือ เมื่อครั้งเสด็จมาทางน้ำ
ได้รับการบูรณะใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 4 และ 5

ลานจอดรถ วัดไทร
ถมที่สูงหนีน้ำ จนถึงครึ่งประตูแนะ
โบสถ์หลังคาสีน้ำเงิน สวยเด่น น่าเข้าไปดู
ตึกไม้แถวนั้น
เปิดเป็นร้านขายของ
ร้านข้าวแกง 10 บาท!!
ประตูลายแปลกตา สีสวยดี

ที่เห็นลายแปลกตาแบบนี้ ที่แท้ใช้ชั่งจีน มาคุมการบูรณะ
เลยดูเป็นกระเบื้อง ๆ

เสียดาย เข้าไปดูภายในโบสถ์ไม่ได้

เอามือรอดเข้าไปถ่ายรูป สักหน่อย
ตอนที่ไป มีเปิดเพลงแด้นซ์เสียงดัง ยาวนานมาก
เลยเดินไปหาต้นเสียง

อยู่ข้างหน้านี้เอง


หอระฆังสีเย็น เย็น

เดี๋ยวไม่เชื่อว่า เรามาถึงวัดไทรแล้ว

ริมคลอง วัดไทร

มีก๋วยเตี๋ยวเรือขาย  โต๊ะเก้าอี้ วัยกำลังน่ารัก *-*

แม่ค้ายังอาย จากที่เคยรุ่งเรือง สู่ความเป็นอยู่อย่างที่เห็น
โอ้ย พูดแล้วอาย สมัยที่มีฝรั่งมีนักท่องเที่ยวมาเยอะ ๆ นั่นมันเมื่อสัก 15 ปีก่อนได้ลัมั้ง

แม่ค้าริมกำแพงวัดไทร

ไปกินอะไรที่ไหนดี?
เราตัดสินใจจะไปเที่ยวที่ สมุทรปราการ
งั้นเจอร้านอะไรสะอาดน่าเข้า ก็แวะละกัน บนเส้นทางสุขสวัสดิ์

สาย 20 สุดสายที่พระสมุทรเจดีย์


ใหญ่ลูกชิ้นปลา

ริมถนนสุขสวัสดิ์ ตรงกิโล9 เลยแยกที่จะเลี้ยวเข้าประชาอุทิศมานิดนึง
ร้านตั้งได้โดดเดี่ยวมาก ห่างจากป้ายรถเมล์เยอะ ต้องนั่งรถมาจอดเทียบ

ภายในร้านสะอาดน่านั่ง
ใหญ่ เย็นตาโฟ
บะหมี่จับกัง
ลูกชิ้นปิ้ง
ตบท้ายด้วยเต้าหู้นมสด

♨ รีวิวอาหาร ใหญ่ลูกชิ้นปลา
บรรยากาศ : ลมพัดเย็นสบายดี แต่ยังมีแมลงวันกวนบ้างประปราย
รสชาติอาหาร :
อร่อยสุด ลูกชิ้นปิ้ง
แย่สุด เกี๊ยวกุ้ง มันคงค้างนานจนใกล้จะบูดแล้ว
เนื่องจากเป็นเมนูที่แพง ชามละ 70 บาท คนคงไม่ค่อยสั่ง
ของขายไม่ได้ก็เลยต้องเก็บนาน, นาน ๆ เข้าก็เสียรส จนออกมาทะแม่ง ๆ แบบนี้

พบคนรู้จักเข้ามาทักทาย

กินเสร็จแล้วเดินทางต่อ


ไปจนถึงทางแยก ป้อมพระจุลก็เลี้ยวขวา ตรงยาว

เต็มไปด้วยต้นจากขึ้นกันอย่างหนาแน่น





วัดขุนสมุทรจีน
วัดขุนสมุทรจีน

ไปถึงแค่ทางลงเรือ สอบถามดูแล้ว ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุและเดินเหิรไม่สะดวก
ต้องนั่งเรือ แล้วยังต้องเดินอีกค่อนข้างไกล

คอสะพานแถวธงนั่นแหล่ะ จุดลงเรือ


นิรนาม เพลส สุดเซอร์ไพร้ซ
เราขับรถตรงมาเรื่อย ๆ เจอเทพดลใจ พาเลี้ยวเข้า วัดภาวนาราม
วัดภาวนาราม สมุทรปราการ

แวะถามทางจากชาวบ้านจะไปวัดสาขลา
แต่พอรู้ว่า ถ้ายังขืนขับตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะสุดคลอง เขานิยมไปตกปลากัน

ได้ฟังดังนั้น ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ ไปให้มันสุดซอยเลย

แวะถามชาวบ้านจุดนี้


โอ้ โห ทางสายเดี่ยว รถสวนไม่ได้  2 ข้างทางเป็นบางกุ้งขนาดใหญ่

ทางสายเดี่ยว

สุดถนนมีบ้านและลานจอดรถ





เปิดประตูรถออกมา กลิ่นทะเลเตะจมูกเข้าจังเบ่อเร่อ
โหย นี่มันกลิ่นทะเลนี่!!

แถมลมก็พัดแรงดี เย็นสบาย ไม่ร้อนเลย  ทั้ง ๆ ที่ แดดเปรี้ยงซะขนาดนี้

ตำบล นาเกลือ แต่เต็มไปด้วย บ่อกุ้ง

เดินไปที่ท่าน้ำ
จ๊ะเอ๋กับชาวบ้านกำลัง ขนปลาขึ้นจากเรือพอดี

ฮุยเลฮุย
นี่คือ ปลาหมอเทศ แกดักไว้ เดี๋ยวจะเอาไปขายที่ตลาด

กลับมาดูวิวท่าน้ำ


ชายฝั่งเป็นดินเลน
ที่เห็นนี่เป็นแค่คลองเหรอ 0.0!
ชื่อคลอง สรรพสามิต

คลอง สรรพสามิต
คลองกว้างใหญ่มาก
มองขึ้นไปด้านบน
มองทางซ้ายมืออีกที
ถ่ายแบบ พาโนราม่า
แสงแดดจ้า แต่ลมแรง พื้นที่โล่ง ๆ ไม่ร้อน

พี่ละไม ไกด์บังเอิญ บอกว่าที่นี่ลมแรงตลอดเวลา แรงเกินไปด้วยซ้ำ

พี่ละไม กำลังเล่าเรื่องต่าง ๆ มี อภินิหารหลวงพ่อโต วัดสาขลา เป็นต้น

เรากำลังจะเดินเข้าไปตามทางนี้
เป็นที่อยู่อาศัยบ้านคน

ระวัง สะพานชำรุด
ล่องน้ำนี้ เป็นทางระบายน้กจากบ่อกุ้ง พบเห็นปลาตีนตัวใหญ่มาก
ตรงนี้เป็นช่วงสะพานชำรุด โยกเยกหน่อย ๆ
รูเพียบ
ทางเดินร่มรื่น ด้วยเงาไม้ตลอดทาง
ตัวอย่างบ้าน 1 ในหลายๆหลัง ถ้าถ่ายจากทางเดินด้านหน้ามัก ติดเงาไม้บัง
นำเที่ยวพูดคุยจนถึงจุดนี้
เพราะถึงบ้านป้าละไมแล้ว หลังจากนี้ไม่นานบรรดาเจ้าตูบก็ออกมาทำหน้าที่อย่างเอ็ดตะโร

เกร็ดเล็ก ๆ จากพี่ละไม ไกด์บังเอิญ คนท้องถิ่น เจ้าของบ่อกุ้ง
น้ำท่วมไหม? อย่างปี2554
ท่วม 2 ชั่วโมงก็ลด

ยุงเยอะไหม?
โอย เจอลมขนาดนี้หอบไปหมดไม่เป็นปัญหา

น้ำประปา ไฟฟ้า?
มีหมด

มีเนตรึเปล่า?
มีเนตด้วย ที่นี่เจริญแล้วนะ (ไม่ใช่บ้านนอก ^^)

ที่ดิน ซื้อ-ขายได้ไหม?
ได้ มีโฉนดที่ดิน พร้อม


ขับรถออกมาก็เห็น ฝูงนกเล่นน้ำจำนวนมาก
ฝูงนกในนากุ้ง
ขามาเสาไฟฟ้าอยู่ซ้ายมือ ขาออกไปเสาไฟฟ้าจึงอยู่ขวามือ

วัดสาขลา
เดิมชื่อวัดสาวกล้า สร้างเมื่อครั้งรบชนะพม่า ราวปี พ.ศ.2325
มีโบราณวัตถุขุดพบอยู่มากมาย

แวะซื้อน้ำestซ่า กับน้ำแข็งที่ 7-11 นี้  แดดแรงมาก
เจดีย์เอียง ณ ลานจอดรถวัดสาขลา
กำลังสร้างศาลา
ช่วงนี้เป็นวันเกิด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา 2 เมษายน


หลวงพ่อโต ประดิษฐานอยู่ชั้นบน

หลวงพ่อโต วัดสาขลา แสดงอิทธิฤทธิ์
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2526 เวลา 3 ทุ่ม
เพลิงได้ลุกไหม้หมู่บ้าน ไฟลุกโหมโชติช่วง สว่างราวกับกลางวัน

ชาวบ้านหลายคน ต่างมองเห็นพระรูปหนึ่ง ยืนหยัดสบัดจีวรสู้ไฟ
จนกระทั่งไฟค่อย ๆ มอดดับลง

รุ่งเช้า จึงพากันมาที่วัด ไม่มีพระรูปใดรับว่าเป็นพระสู้ไฟรูปนั้น
เห็นเพียงพระพุทธรูปจีวรไหม้อยู่

ชาวบ้านตะลึง ปนซึ้งใจ น้ำตาไหล
ต่างพากันป่าวร้อง แซ่ซ้อง ทำบุญ กับองค์หลวงพ่อโต เป็นการใหญ่

และได้จัดงานรำลึกถึง ทุกวันที่ 6 มกราคม ของทุกปี


บรรยากาศโดยรอบวัด
ปลาตัวใหญ่ขนาดไหน ลองดูที่สตาฟแขวนไว้ได้

บนโบสถ์เย็นสบาย มีหลังคาคลุมรอบทางเดิน
หินลูกนิมิตรโบราณ ขุดขึ้นมาวางคู่กับใยเสมา
มีให้เสี่ยงเซียมซี
ของทำบุญเยอะ
ด้านล่างเป็นอุทยานควาย
มีหลังคาบังแดด ตลอดทางเดิน
ตู้ไปรษณีย์วัดสาขลา
ภาพเหตุการณ์ อันเชิญลูกนิมิตร

ห้องเย็น
ใต้ถุนโบสถ์ มีห้องเย็นใหญ่ 2 ห้อง
ห้อง1 รวมรูปปั้นจำลองของภิกษุผู้มีชื่อเสียง และภาพพุทธประวัติ
ห้อง2 รวมรูปปั้นเทวะ เทพอินเดีย ฮินดู มากมาย มีพระพิฆเนศ เป็นต้น

ห้องเย็นนี้แอร์ฉ่ำเย็นสบายโคตร ๆ มีโซฟานิ่ม ๆ ปล่อยร่างจมลงไป
นาทีนั้นต่อให้เอา LazyBoy มาแลกก็ไม่ยอม 5 5 5


ห้อง1 ห้องพระ
รูปพุทธประวัติ หลาย ๆ เหตุการณ์


ในตู้จะเต็มไปด้วยหุ่นจำลอง
หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง
ไม่บอกก็คงรู้ มีเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งยองแบบนี้ ในยุค พ.ศ.นี้  หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่


ห้อง2 ห้องเทพ

มหาเทพสูงสุด องค์พระศิวะ
พระกฤษณะ
พระนารายณ์

แต่ที่มีเยอะสุดคือ. . .

พระพิฆเนศ
ไม่ค่อยเห็นใครปั้นหุ่นครุฑเทพ

อุโมงค์ใต้ถุนส่วนกลาง ยังมีที่จัดแสดงหุ่น และของโบราณอีก


พระบัวเข็ม
พระพุทธรูปคู่ ที่ขุดขึ้นมาได้
ทางออกของอุโมงค์คือ รอดท้องช้าง


ออกมาก็จ๊ะเอ๋ กับสิ่งนี้เป็นสิ่งแรก


โชค ดี มี ชัย

ตลาดโบราณ บ้านสาขลา

ที่นี่มีกุ้งขายเยอะมาก เหมือนเป็นของดีเมืองสาขลา

ตอนนี้กุ้งแพงมาก ราคาBigC ขาวใหญ่ โลละ 389 บาท  ขาวเล็ก 215 บาท
ตลาดอื่น ๆ ก็ราคาไม่ทิ้งกัน  ตลาดสั้นตัวเล็ก ๆ เลขาย โลละ 200 บาท

เดินเข้าไปนิดหน่อยก็กลับ

ของกินแนะนำ
ข้าวเหนียวแก้ว ถุงละ 20 บาท (ขายอยู่หน้าวัด)
กลิ่นงี้หอมอบอวลละมุนละไม คำแรกที่กัดเข้าไป นิ่มนวลและหอมหวลอุ่น ๆ กระจายไปทั่วปาก
ไม่หวานแหลม ไม่หวานมาก  สุดยอดของความอร่อยในวันนี้

ข้าวเหนียวแก้ว, ถ่ายรูปมาได้ ไม่มีความน่ากินเลยสักนิด เหอ ๆ


วัดใหญ่ บางปลากด สมุทรปราการ
ที่ไปเพราะคิดว่าอาจจะมีตลาดน้ำ หรือ ตลาดในวัด แต่ไม่มี
วัดใหญ่

เดินไปสุดท่าน้ำ


ตลาดโค้งสน สมุทรปราการ
หาข้อมูลสด ๆ ในมือถือ รายละเอียดไม่มีเลย
แค่บอกว่า เขา(คนโพสต์)เป็นร้านข้าวหมกไก่ที่อร่อยที่สุดในอำเภอ ขายอยู่ที่นี่

มองแล้วนี่มันเหมือนตลาดเล็ก ๆ ในโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่ยังสร้างไม่เสร็จ

เดี๋ยวนี้ ขนาดตลาดสดยังต้องมีทำโปรโมชั่น
ตลาดโค้งสน
ด้านหลังเป็นสระน้ำ
สั่งทุกครั้งที่มีโอกาส

♨รีวิวอาหาร ตลาดโค้งสน
☑ ส้มตำ น้ำตก วันที่ไปได้วัตถุดิบสดใหม่  อร่อยดี
☑ ไก่ทอด ขนาดพุดเดิ้ลแก่ ยังกินไม่เว้นแม้แต่หนัง
☒ ข้าวหมกไก่ที่อร่อยที่สุด ไม่ได้ชิมนะครับ เขาบอกของหมด
☒ ปาท่องโก๋ ซาลาเปาทอดเหม็นกลิ่นฉี่ ฉุนมาก
☒ หมูปิ้ง ไม่สามารถทำร้อนได้
☒ อาหารหลาย ๆ อย่างในนี้ ไม่ร้อน มันเลยออกชืด ๆ


จะมีใครอยากตามรอยไปเที่ยวไหมเนี่ย
สะเปะสะปะไปแบบไม่มีแผนล่วงหน้า

ทริปนี้ทำให้ได้รู้จักและเห็นสมุทรปราการกว้างขึ้น  อีดนิด


สุวรรณโพสต์
SuwanPost




ความคิดเห็น