ลอยกระทง เอเชียทีค

ความเดิม เริ่มเดินมาจากสวนลุมพินี
--> http://suwanpost.blogspot.com/2014/11/silom-bangruk-loy-kratong-festival.html

เดินมาถึงแล้ว เอเชียทีค
แม้ว่าเส้นทางอาจจะดูไกลไปสักหน่อย

แต่ถ้าลองได้มีเพื่อนร่วมเดินมากๆ ในบรรยากาศเทศกาลใหญ่ๆ
ที่เดินไปทางไหนก็จะเห็นผู้คนบ้าง สินค้า ร้านค้า อาคารบ้านเรือน เป็นธีมเดียวกัน

แบบนี้ก็จะเดินแบบลืมเหนื่อยไปชั่วคราว แต่เมื่อยเหมือนเดิม -ฮา-



อุทิศ4เลน ให้เอเชียทีค


2 ทุ่มครึ่ง ถนนเจริญกรุงมี 4 เลน ตอนนี้เปิดให้รถจากบางรักทั้ง 4 เลนเลย
ปิดถนนไม่ให้รถเข้าจากแยกถนนตกโน่นแน่ะ

ขนาดทำแบบนี้รถก็ยังติดแน่นมาก

ขอเล่าไปถึงตอนที่เที่ยวงานลอยกระทงในเอเชียทีคเสร็จออกมา 4 ทุ่มกว่า
สภาพก็ยังเหมือนเดิมเลยครับ 4 เลนแน่นทุกเลน เคลื่อนตัวไปได้อย่างเชื่องช้า



คนโคตรเยอะ




แม้ว่าเอเชียทีค จะมีพื้นที่กว้างมาก
แต่พอเทียบกับคนที่มาเที่ยวแล้ว แน่นอ่ะ

น่าเห็นใจกับสุภาพสตรีที่รอคิวเข้าห้องน้ำมาก

คนจะผนึกกันแน่นยิ่งขึ้นบริเวณท่าน้ำ แม้ว่าจะมีท่าน้ำที่ยาวเหยียด
แต่ก็เต็มไปด้วยผู้คน ที่พยายามจะฝากกระทงตัวเองไปให้ เจ้าหน้าที่ลอยให้

เพราะแม่น้ำเจ้าพระยา ยามนี้ น้ำน้อยนัก ตลิ่งสูง
จำต้องใช้อุปกรณ์ช่วยลอย เป็นตะกร้าผูกติดกับไม้เต็กกอยาวๆ
เพื่อหย่อนกระทงอันมีค่าของท่าน  ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา



คนเยอะ แต่โซนร้านค้า คนน้อยจัง


เพื่อที่จะเลี่ยงฝูงคน จากทางหลัก ผมก็เลยใช้ตรอกขายสินค้าเป็นทางเดิน
พบว่า เดินได้สบายมาก  อ่าว แบบนี้ของก็ขายไม่ดีอ่ะดิ

ที่ขายดีกว่า คงจะเป็นของกิน

พวกร้านดังๆ มีชื่อ ต้องรอคิวกัน
บางกลุ่ม ไม่มีที่นั่งกิน ก็จับกลุ่มล้อมวงกินกันกับพื้นเลย

ร้านไอศครีม Swensen's  งี้ล้นออกมาเลย  ถึงจะอยากกินก็คงขอบาย



การแสดงบนเวที ทุ่มทุนสร้าง



เดินไปจนสุดท่าน้ำ ฝั่งที่ติดกับวัด
จะจัดเป็นโซนการแสดง ศิลปวัฒนธรรม เหมือนจะพยายามจัดบรรยากาศแบบย้อนยุค
มีร้านขายอาหาร  ซุ้มแสดงศิลปะ  สร้างสะพานไม้  และอื่นๆเต็มพื้นที่

และคนก็เต็มพื้นที่ด้วยเช่นกัน  ได้รับความสนใจและตอยรับอย่างล้นหลาม




ผมไปถึงสักเกือบๆ 3 ทุ่ม ทันได้ดูการแสดง หุ่นเชิดคน คือคนแสดงเป็นหุ้นเชิด
แล้วก็ดูการแสดงใหญ่ ไฮไลท์ของงาน ที่ใช้นักแสดงกว่า 70 ชีวิต

พร็อบประกอบฉากเป็นเรือสำเภาลำใหญ่ รวมถึงรถม้ามีชีวิตจริงๆ ร่วมแสดงด้วย
เป็นละครเวที มิวสิคคอล  ความยาวน่าจะ 1 ชั่วโมง
ยืนดูจนเมื่อยหลัง เมื่อยขากันเลยทีเดียว



เพิ่งเคยได้ดู มิวสิคคอล ครั้งแรก
ก็ไม่ถูกจริตเท่าไร  ดันนึกไปถึง ท่านโมคคัลลานะ และ ท่านสารีบุตร
ตอนที่ไปดูการแสดงแล้วเกิดนึกขึ้นได้ว่า  ชีวิตเราก็สั้นนัก ขืนมามัวติดการละเล่น เพลิดเพลินไปวันๆ
ไม่ช้าก็คงจะจากโลกนี้ไปอย่าง ไม่ได้อะไรเป็นแก่นสารสาระเลย (ประมาณนี้)


วกกลับเข้ามาที่การแสดงต่อ
สังเกตว่า คนที่เล่นเป็นตัวประกอบ เวลาล้มลงนอนบ้าง นั่งบ้าง
ตามท้องเรื่องที่ถูกฝรั่งเศสถล่มเมือง  สีหน้าของเหล่าตัวประกอบ
ก็จะยังคงทำหน้าเศร้า ส่งต่อความเจ็บปวด ไม่มีหลุดยิ้ม หัวเราะอะไร


ข้อดีของการมาดูอะไรของจริง คือเราสามารถเลือกดู มุมไหนๆก็ได้ แบบนี้แหล่ะ



การแสดง ถูกขโมยซีนด้วย พลุชุดใหญ่ๆ จากที่อื่นๆ


ระหว่าการแสดงดำเนินมาถึงช่วงท้ายเรื่อง
ก็เริ่มมีการจุดพลุชุดใหญ่ จากที่อื่นๆ  แล้วพลุก็สวยมากซะด้วยสิ

ขนาดอยู่ไกลๆ บางดวงวงใหญ่ โตมโหฬารยิ่งกว่าตึกสูงริมน้ำเสียอีก



การแสดงมาจบเอาช่วง 4 ทุ่ม
ก็มีการจุดพลุที่เอเชียทีค 300 ดวง ส่งท้ายเทศกาล

กลายเป็นว่า เราได้ยืนอยู่ใกล้ที่จุดพลุ ได้เห็นเต็มๆตา ดวงโตๆเลย
จากที่เคยดูอยู่ไกลๆ ห่างๆ จากท่าน้ำวัดบุคคโลเมื่อปีก่อนๆ

ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง

โน่นเอเชียทีค เขาจุดพลุ
เนี่ยเป็นแบบนี้มาหลายปีเชียวแหล่ะ  วันนี้ได้มายืนอยู่ที่เขาจุดพลุ จริงๆแล้ว 5 5



เดินกลับบ้าน
เจอแล้ว นี่ไง ตำรวจกั้นไม่ให้รถเข้าถนนเจริญกรุง

ผมเคยเดินกลับจากเอเชียทีคแล้ว รู้สึกว่าค่อนข้างไกล
แต่อย่างที่บอกไว้ในตอนต้น  พอมีคนร่วมเดินเยอะๆ
ก็ลืมเหนื่อย  เพลินๆ เดี๋ยวก็ถึง




ปวดเมื่อยมาก  ลอยกระทงปี2557นี้ ได้เดินเที่ยว สาแก่ใจมาก 5 5 5

การท่องเที่ยวแห่งคนไทย 10TiS.com

ความคิดเห็น